ทรงผมชายสไตล์คลาสสิก 2567 เหมาะกับงาน
ทรงผมชายสไตล์คลาสสิกปี 2024 ที่เหมาะกับงาน ทรงผมสกินเฟด […]
ทรงผมชายสไตล์คลาสสิกปี 2024 ที่เหมาะกับงาน
ทรงผมสกินเฟด: ทรงผมสุดคลาสสิกที่เน้นการตัดไล่ระดับด้านข้างและด้านหลังจนเกือบเกลี้ยง แต่คงความยาวไว้บริเวณด้านบน เหมาะกับผู้ชายทุกวัยและเข้าได้กับชุดทำงานหลากหลายสไตล์
ทรงผมสลิกแบ็ก: อีกหนึ่งทรงผมสุดคลาสสิกที่ไม่เคยตกยุค โดยการหวีผมไปด้านหลังและเซ็ตให้เรียบเนี้ยบด้วยเจลหรือโพเมด เพื่อลุคที่ดูเป็นทางการและภูมิฐาน
ทรงผมคอมมาโอเวอร์: ทรงผมที่มีความคลาสสิกแต่แฝงไปด้วยความทันสมัย โดยการแบ่งผมข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งและใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเพื่อเซ็ตให้เข้าทรง เหมาะกับผู้ชายที่มีใบหน้ารูปไข่หรือรูปสี่เหลี่ยม
ทรงผมโพมปาดัวร์: ทรงผมแบบย้อนยุคที่ดูหรูหราและมีสไตล์ ด้วยการดึงผมด้านหน้าให้พองฟูและหวีไปด้านหลัง เหมาะสำหรับงานเลี้ยงหรือโอกาสพิเศษที่ต้องการความโดดเด่น
ทรงผมอันเดอร์คัต: ทรงผมยอดนิยมที่ผสานความคลาสสิกและความทันสมัยเข้าด้วยกัน โดยการตัดผมด้านข้างและด้านหลังให้สั้น แต่คงความยาวไว้ด้านบนเพื่อจัดแต่งทรงได้หลากหลาย เหมาะกับผู้ชายที่ชอบความเนี้ยบแต่ไม่อยากดูเป็นทางการมากเกินไป## ทรงผมชายสไตล์คลาสสิก 2567 เหมาะกับงาน
บทสรุป
ทรงผมชายสไตล์คลาสสิกเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับการทำงาน เนื่องจากให้ลุคเรียบร้อย สุภาพ และเป็นมืออาชีพ ทั้งยังสามารถปรับแต่งให้เข้ากับรูปหน้าและสไตล์ของแต่ละคนได้ โดยมีทรงผมยอดนิยม เช่น Undercut, Slick Back, Quiff, Side Part และ Buzz Cut
บทนำ
ทรงผมเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจให้กับผู้ชาย ในสภาพแวดล้อมการทำงาน ทรงผมที่เหมาะสมสามารถสร้างความประทับใจที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า และลูกค้า และช่วยให้เราประสบความสำเร็จในอาชีพการงานได้ดียิ่งขึ้น ต่อไปนี้คือทรงผมชายสไตล์คลาสสิก 5 ทรงที่เหมาะกับการทำงานในปี 2567
คำถามที่พบบ่อย
- ทรงผมแบบไหนที่เหมาะกับรูปหน้าของฉัน?
ทรงผมที่ดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับรูปหน้าและลักษณะเฉพาะของแต่ละคน คุณควรปรึกษากับช่างตัดผมมืออาชีพเพื่อค้นหาทรงผมที่เข้ากับคุณที่สุด - ฉันควรตัดผมบ่อยแค่ไหน?
เพื่อให้ทรงผมดูดีและเป็นระเบียบ คุณควรตัดผมทุก 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับทรงผมและอัตราการเจริญเติบโตของเส้นผม - ฉันสามารถจัดแต่งทรงผมได้อย่างไร?
มีผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากมายที่สามารถช่วยคุณจัดแต่งทรงผมได้ตามต้องการ คุณควรทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเส้นผมและทรงผมของคุณที่สุด
ทรงผมชายสไตล์คลาสสิก 5 ทรงที่เหมาะกับการทำงาน
Undercut
ทรง Undercut เป็นทรงผมสั้นที่ตัดไล่ระดับความยาวจากสั้นที่ด้านข้างและด้านหลัง ไปหายาวที่ด้านบน ทรงนี้ให้ลุคที่ดูสะอาดและเป็นระเบียบ เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการทรงผมที่ดูแลง่ายและไม่ต้องจัดแต่งทรงผมมาก
- รองทรงสูง (High Fade): ตัดไล่ระดับความยาวสูงจากด้านข้างและด้านหลังขึ้นไปเกือบถึงหนังศีรษะ
- รองทรงกลาง (Mid Fade): ตัดไล่ระดับความยาวจากด้านข้างและด้านหลังขึ้นไปจนถึงประมาณกึ่งกลางศีรษะ
- รองทรงต่ำ (Low Fade): ตัดไล่ระดับความยาวจากด้านข้างและด้านหลังขึ้นไปเพียงเล็กน้อยบริเวณท้ายทอย
- รองทรงกรวย (Taper Fade): ตัดไล่ระดับความยาวจากด้านข้างและด้านหลังขึ้นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- รองทรงตัดขาด (Disconnected Fade): ตัดไล่ระดับความยาวจากด้านข้างและด้านหลังขึ้นไปจนถึงหนังศีรษะ โดยเว้นช่วงบริเวณขมับหรือด้านข้างเอาไว้
Slick Back
ทรง Slick Back เป็นทรงผมที่หวีปาดไปด้านหลังและจัดแต่งด้วยผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมให้ดูเงาและเรียบลื่น ทรงนี้ให้ลุคที่ดูเป็นทางการและสง่างาม เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการทรงผมที่ดูเรียบร้อยและเป็นมืออาชีพ
- วอลุ่มสูง (High Volume): เพิ่มวอลุ่มให้กับผมด้านบนโดยการไดร์ผมหรือใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มวอลุ่ม
- วอลุ่มต่ำ (Low Volume): จัดแต่งผมให้เรียบลื่นและแบนราบโดยใช้เจลหรือโพเมด
- แสกกลาง (Center Part): แสกผมตรงกลางและหวีปาดไปด้านหลัง
- แสกข้าง (Side Part): แสกผมด้านข้างและหวีปาดไปด้านหลัง
- แสกซิกแซก (Zigzag Part): แสกผมเป็นซิกแซกและหวีปาดไปด้านหลัง
Quiff
ทรง Quiff เป็นทรงผมที่ตัดสั้นที่ด้านข้างและด้านหลัง แต่ยาวขึ้นที่ด้านบนและจัดแต่งโดยพับผมด้านบนขึ้นไปด้านหน้า ทรงนี้ให้ลุคที่ดูทันสมัยและมีสไตล์ เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการทรงผมที่ดูเซอร์เล็กน้อยแต่ยังคงดูเป็นมืออาชีพ
- ทรงผมสั้น (Short Quiff): ด้านบนของผมสั้นและพับขึ้นไปด้านหน้า
- ทรงผมยาว (Long Quiff): ด้านบนของผมยาวและพับขึ้นไปด้านหน้า
- Quiff ปัดข้าง (Side Swept Quiff): พับผมด้านบนไปด้านหน้าแล้วปัดไปด้านข้าง
- Quiff ม้วนปลาย (Curled Quiff): พับผมด้านบนไปด้านหน้าแล้วม้วนปลายผม
- Quiff รองทรง (Undercut Quiff): ตัดด้านข้างและด้านหลังให้สั้นแบบ Undercut แล้วพับผมด้านบนไปด้านหน้า
Side Part
ทรง Side Part เป็นทรงผมที่แสกผมด้านข้างและหวีเรียบไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ทรงนี้ให้ลุคที่ดูคลาสสิกและเป็นมืออาชีพ เหมาะกับผู้ชายทุกประเภท
- แสกข้างลึก (Deep Side Part): แสกผมด้านข้างลึกและหวีเรียบไปทางด้านใดด้านหนึ่ง
- แสกข้างตื้น (Shallow Side Part): แสกผมด้านข้างตื้นและหวีเรียบไปทางด้านใดด้านหนึ่ง
- หวีไปด้านหน้า (Combed Forward): แสกผมด้านข้างและหวีเรียบไปด้านหน้า
- หวีไปด้านหลัง (Combed Back): แสกผมด้านข้างและหวีเรียบไปด้านหลัง
- แสกซิกแซก (Zigzag Part): แสกผมด้านข้างเป็นซิกแซกและหวีเรียบไปทางด้านใดด้านหนึ่ง
Buzz Cut
ทรง Buzz Cut เป็นทรงผมสั้นมากที่ตัดสั้นเท่ากันทั่วทั้งศีรษะ ทรงนี้ให้ลุคที่ดูสะอาดและเป็นระเบียบ เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการทรงผมที่ดูแลง่ายที่สุด
- รองทรงเบอร์ 1 (Number 1 Buzz Cut): ตัดสั้นมากโดยเหลือผมความยาวเพียง 3 มม.
- รองทรงเบอร์ 2 (Number 2 Buzz Cut): ตัดสั้นโดยเหลือผมความยาวเพียง 6 มม.
- รองทรงเบอร์ 3 (Number 3 Buzz Cut): ตัดสั้นโดยเหลือผมความยาวเพียง 9 มม.
- รองทรงเบอร์ 4 (Number 4 Buzz Cut): ตัดสั้นโดยเหลือผมความยาวเพียง 12 มม.
- รองทรงเบอร์ 5 (Number 5 Buzz Cut): ตัดสั้นโดยเหลือผมความยาวเพียง 15 มม.
บทสรุป
ทรงผมชายสไตล์คลาสสิกทั้ง 5 ทรงนี้ เหมาะสำหรับการทำงานในปี 2567 เนื่องจากให้ลุคที่ดูเป็นมืออาชีพ สะอาด และเป็นระเบียบ ไม่ว่าคุณจะเลือกทรงผมแบบไหนก็ตาม จงเลือกทรงผมที่เข้ากับรูปหน้าและบุคลิกภาพของคุณ และอย่าลืมดูแลเส้นผมของคุณให้ดีเพื่อให้ผมของคุณดูสุขภาพดีและเงางามอยู่เสมอ
คำหลัก
- ทรงผมชาย
- ทรงผมชายสไตล์คลาสสิก
- ทรงผมสำหรับทำงาน
- Undercut
- Quiff