เทรนด์สีผม ปี 2567 เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดากับ
เทรนด์สีผมปี 2567 เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา สำหรับปี 2024 เ […]
เทรนด์สีผมปี 2567 เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา
สำหรับปี 2024 เทรนด์สีผมมาในโทนสีเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร โดยการเน้นสีผมโทนธรรมชาติ เพื่อขับความเป็นตัวเองให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้ม มาพร้อมกับการเพิ่มประกาย เพื่อให้ผมดูมีมิติ และไม่แบนราบจนเกินไป โดยสามารถเลือกได้ทั้งแบบสีผมไฮไลต์ หรือโลว์ไลต์ สีผมที่ไฮไลต์อาจเลือกเป็นเฉดสีบลอนด์ หรือสีน้ำตาลอ่อนกว่าสีผมเดิมสัก 2-3 ระดับ ส่วนสีผมแบบโลว์ไลต์อาจเลือกเป็นสีน้ำตาล หรือเทา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหนาของเส้นผม และทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กอีกด้วย## เทรนด์สีผม ปี 2567 เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดากับ
บทสรุป
ในปี 2567 เทรนด์สีผมมาในแนวเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา เน้นโทนสีธรรมชาติและเทคนิคการทำสีผมที่สร้างมิติ โดยเฉพาะเทคนิคบาลายาจและไฮไลต์ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับลุค คู่กับการดูแลสุขภาพเส้นผมอย่างดี จะทำให้คุณสวยโดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติ
เกริ่นนำ
โลกของแฟชั่นและความงามหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทรนด์สีผมก็เช่นกัน ในปี 2567 เทรนด์สีผมมาในแนวเรียบง่ายแต่มีสไตล์ ไม่เน้นสีสันฉูดฉาด แต่ใช้เทคนิคการทำสีผมที่สร้างมิติอย่างเป็นธรรมชาติ มาดูกันว่าเทรนด์สีผมในปีนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
FAQ
ทำสีผมบ่อยๆ จะทำให้ผมเสียไหม?
สีผมมีสารเคมีที่อาจทำให้ผมแห้งเสียได้ โดยเฉพาะการฟอกสีผมหรือการทำสีผมอ่อนกว่าสีผมเดิม ดังนั้นควรดูแลสุขภาพเส้นผมเป็นพิเศษ หมักผมบำรุงลึกและหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมสีผมแบบไหนเหมาะกับฉัน?
การเลือกสีผมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น โทนสีผิว รูปหน้า และสไตล์ส่วนตัว ควรปรึกษาช่างทำผมเพื่อเลือกสีผมที่เหมาะกับคุณที่สุดทำสีผมเองได้ไหม?
การทำสีผมเองอาจเป็นเรื่องยากและอาจเกิดความผิดพลาดได้ โดยเฉพาะหากต้องการทำสีผมที่ซับซ้อน แนะนำให้ไปทำที่ร้านทำผมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เทรนด์สีผม 5 อันดับ
1. บาลายาจ (Balayage)
เทคนิคการทำสีผมแบบมือนวล เน้นการไล่เฉดสีจากโคนผมไปปลายผมอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการใช้แปรงปัดสีผมลงบนเส้นผมบางส่วน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูมีมิติและสวยงามราวกับผมสีธรรมชาติ
- ไล่เฉดสีจากโคนผมเข้มไปปลายผมอ่อน
- ใช้เทคนิคมือวาดเพื่อสร้างมิติ
- เหมาะกับทุกสีผม
2. ไฮไลต์หน้าม้า (Face Framing Highlights)
เทคนิคการทำสีผมบริเวณหน้าม้าหรือกรอบหน้า เพื่อเน้นให้ใบหน้าดูสว่างและมีมิติ โดยการไฮไลต์ผมบางส่วนบริเวณโคนผมหรือปลายผม ทำให้กรอบหน้าดูโดดเด่นและเป็นธรรมชาติ
- ไฮไลต์บริเวณหน้าม้าหรือกรอบหน้า
- สร้างมิติให้กับใบหน้า
- เหมาะกับทุกสีผมและรูปหน้า
3. โทนสีน้ำตาลหม่น (Ash Brown)
สีผมโทนน้ำตาลหม่นหรือเทาหม่น เป็นสีผมที่มีความสุขุมและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายแต่ดูมีสไตล์ เหมาะกับทุกสีผิวและรูปหน้า
- น้ำตาลหม่นหรือเทาหม่น
- ให้ลุคสุขุมและเป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับทุกสีผิวและรูปหน้า
4. สีบลอนด์สว่าง (Blonde)
สีผมบลอนด์สว่างหรือบลอนด์ทอง เป็นสีผมสุดคลาสสิกที่ไม่เคยตกเทรนด์ ให้ลุคที่ดูโดดเด่นและมีเสน่ห์ เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาวหรือเหลืองอมชมพู
- สีบลอนด์สว่างหรือบลอนด์ทอง
- ให้ลุคที่โดดเด่นและมีเสน่ห์
- เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาวหรือเหลืองอมชมพู
5. สีแดงไวน์ (Wine Red)
สีผมโทนแดงไวน์หรือแดงเบอร์กันดี เป็นสีผมที่มีความหรูหราและมีเสน่ห์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความโดดเด่นและมีสไตล์ เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาวหรือเหลืองอมชมพู
- สีแดงไวน์หรือแดงเบอร์กันดี
- ให้ลุคที่หรูหราและมีเสน่ห์
- เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาวหรือเหลืองอมชมพู
บทสรุป
เทรนด์สีผมในปี 2567 เน้นความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคนิคการทำสีผมที่สร้างมิติ ไม่ว่าจะเป็นบาลายาจ ไฮไลต์หน้าม้า หรือโทนสีน้ำตาลหม่นก็สามารถช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับคุณได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาสีผมที่ฉูดฉาดจนเกินไป เพียงแค่ดูแลสุขภาพเส้นผมให้ดี รับรองว่าคุณจะสวยโดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติอย่างแน่นอน
คำสำคัญ (Tags)
เทรนด์สีผม, บาลายาจ, ไฮไลต์หน้าม้า, โทนสีน้ำตาลหม่น, สีผมธรรมชาติ