ฤกษ์บวช ฤกษ์สึกพระ 2567 การบวชต้องมีฤกษ์สึกด้วยหรือคะ

ฤกษ์บวช ฤกษ์สึกพระ 2567 การบวชต้องมีฤกษ์สึกด้วยหรือคะ พ […]

ฤกษ์บวช ฤกษ์สึกพระ 2567 การบวชต้องมีฤกษ์สึกด้วยหรือคะ

พระสงฆ์เป็นที่พึ่งทางใจของชาวไทยมายาวนาน การบวชจึงเป็นสิ่งที่สำคัญควรทำเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา ครั้นเมื่อบวชแล้วก็ต้องมีการสึกตามวาระเพื่อกลับมาครองเพศฆราวาส ประเพณีชาวพุทธจึงมีความเชื่อในเรื่องการดูฤกษ์ยามสำหรับทั้งการบวชและการสึก เพื่อให้ชีวิตสมณะและฆราวาสราบรื่น แต่แท้จริงแล้วการบวชต้องมีฤกษ์สึกด้วยหรือไม่

การบวชเป็นพิธีกรรมที่สำคัญของชาวพุทธ เปรียบเสมือนการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเพศสมณะเพื่อศึกษาหลักธรรมคำสอน เป็นการทดแทนพระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ และเพื่อสร้างบุญบารมีแก่ตนเอง เมื่อบวชแล้วก็ต้องมีการสึกออกมาครองเพศฆราวาส ซึ่งการสึกก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะการสึกที่ดีจะช่วยให้การกลับคืนสู่เพศฆราวาสราบรื่น และสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข

การบวชไม่จำเป็นต้องมีฤกษ์สึก ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของพระภิกษุ แต่ตามธรรมเนียมนิยมในบางพื้นที่อาจมีการกำหนดฤกษ์สำหรับการสึกด้วย

ฤกษ์บวชที่เป็นมงคลในปี 2567

• วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 09.09 น. เป็นต้นไป
• วันที่ 18 มีนาคม เวลา 11.39 น. เป็นต้นไป
• วันที่ 24 เมษายน เวลา 11.59 น. เป็นต้นไป
• วันที่ 7 พฤษภาคม เวลา 13.49 น. เป็นต้นไป
• วันที่ 18 มิถุนายน เวลา 11.39 น. เป็นต้นไป

ฤกษ์สึกที่เป็นมงคลในปี 2567

• วันที่ 27 มกราคม เวลา 11.59 น. เป็นต้นไป
• วันที่ 15 มีนาคม เวลา 11.39 น. เป็นต้นไป
• วันที่ 23 เมษายน เวลา 12.19 น. เป็นต้นไป
• วันที่ 14 พฤษภาคม เวลา 11.39 น. เป็นต้นไป
• วันที่ 16 มิถุนายน เวลา 12.39 น. เป็นต้นไป

การบวชต้องมีฤกษ์สึกด้วยหรือไม่ ในหลักพระธรรมวินัยไม่มีข้อกำหนดเรื่องฤกษ์สึก แต่สามารถดูฤกษ์ได้เพื่อความเป็นสิริมงคล

ต้องดูฤกษ์สึกอย่างไร ให้ดูฤกษ์ที่เหมาะสมกับลัคนาของผู้สึก เช่น วันธงชัย วันอธิบดี วันกาลโยค

การสึกขัดฤกษ์มีโทษอย่างไร ไม่มีโทษ แต่หากต้องการความสบายใจก็ควรดูฤกษ์ให้เหมาะสม

ฤกษ์สึกพระ 2567

ในการเลือกฤกษ์สึกพระนั้น สามารถดูได้จากปฏิทินฤกษ์ประจำปี โดยพิจารณาจากฤกษ์ที่เหมาะสมกับลัคนาของผู้สึก และควรเป็นฤกษ์ที่เป็นวันธงชัย วันอธิบดี หรือวันกาลโยค โดยในปี 2567 นี้ มีฤกษ์สึกที่ดี ดังต่อไปนี้

วันธงชัย

• วันที่ 19 มกราคม 2567
• วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
• วันที่ 31 มีนาคม 2567

วันอธิบดี

• วันที่ 17 มกราคม 2567
• วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567
• วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567

วันกาลโยค

• วันที่ 14 มกราคม 2567
• วันที่ 25 มกราคม 2567
• วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567

ข้อควรปฏิบัติก่อนสึก

• ปลงอาบัติ ก่อนสึกควรทำการปลงอาบัติในข้อที่ได้ล่วงละเมิดไป
• เตรียมเครื่องสังฆบริขาร เช่น จีวร สบง อังสะ เพื่อถวายคืนวัด
• ขอกราบลาพระอุปัชฌาย์ เพื่อขออนุญาตลาสิกขา
• ขอขมาพระภิกษุสามเณร ที่ร่วมจำพรรษา เพื่อขออโหสิกรรม
• บิณฑบาตครั้งสุดท้าย ก่อนสึกควรบิณฑบาตเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อเป็นการอำลาญาติโยม

ข้อควรปฏิบัติหลังสึก

• รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะข้อห้ามดื่มสุราเมรัย
• ประพฤติตนอยู่ในกรอบจารีตประเพณี เช่น การแต่งกายสุภาพ
• บำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นการต่อยอดบุญที่ได้สั่งสมมาในเพศสมณะ
• หมั่นกราบไหว้พระคุณบิดามารดา เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที
• ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ระลึกถึงหลักธรรมคำสอนที่ได้เรียนรู้มาในเพศสมณะ

พระธรรมวินัยไม่ได้บัญญัติเรื่องฤกษ์สึก แต่การดูฤกษ์เพื่อความสบายใจก็สามารถทำได้ โดยเลือกฤกษ์ที่เป็นมงคล เช่น วันธงชัย วันอธิบดี หรือวันกาลโยค อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่าฤกษ์ยามคือการปฏิบัติตนให้ดีทั้งในเพศสมณะและฆราวาส ซึ่งจะทำให้ชีวิตราบรื่นและมีแต่ความสุข